รวมข้อมูลรับสมัครงานราชการ นักรังสีการแพทย์ ปี 2568
กรมการแพทย์นักรังสีการแพทย์ : รวมข้อมูลรับสมัครงานราชการปี 2568
Estimated reading time: 7 minutes
Key Takeaways
- กรมการแพทย์ เปิดรับสมัคร นักรังสีการแพทย์ ข้าราชการ จำนวน 1 อัตรา ในปี 2568
- ตำแหน่งนี้เป็นงานวิชาการระดับปฏิบัติการ พร้อมเงินเดือนเริ่มต้นที่ 18,150 – 19,970 บาท
- ผู้สมัครต้องมีวุฒิปริญญาตรีด้านรังสีการแพทย์หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- สามารถติดตามข่าวสารและสมัครได้ผ่าน เว็บไซต์กรมการแพทย์
- บทบาทนักรังสีการแพทย์มีความสำคัญในระบบสาธารณสุข ทั้งการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีรังสีทางการแพทย์
Table of Contents
- ข้อมูลรับสมัครงานตำแหน่งนักรังสีการแพทย์ กรมการแพทย์ ปี 2568
- ความสำคัญของนักรังสีการแพทย์ในระบบสาธารณสุข
- แนวทางการเตรียมตัวสมัครตำแหน่งนักรังสีการแพทย์
- งานและบทบาทของนักรังสีการแพทย์ในกรมการแพทย์
- สรุปและข้อเสนอแนะสำหรับผู้สมัครตำแหน่งนักรังสีการแพทย์
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ข้อมูลรับสมัครงานตำแหน่งนักรังสีการแพทย์ กรมการแพทย์ ปี 2568
กรมการแพทย์ตั้งอยู่ที่ ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการในตำแหน่ง นักรังสีการแพทย์ จำนวน 1 ตำแหน่ง โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้
รายละเอียดตำแหน่งงาน
- ตำแหน่ง: นักรังสีการแพทย์
- ประเภท: วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
- จำนวนที่รับ: 1 อัตรา
- เงินเดือน: 18,150 – 19,970 บาท
- ระดับการศึกษา: ปริญญาตรี ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับรังสีการแพทย์ (ตามที่ระบุในเอกสารแนบ)
- ลักษณะงาน: ปฏิบัติงานในด้านรังสีการแพทย์และเทคนิคทางรังสีเพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรคและการรักษาทางการแพทย์
- สมรรถนะและวิธีการประเมิน: อ้างอิงจากเอกสารแนบท้ายรายละเอียดประกาศรับสมัคร ดาวน์โหลดเอกสารที่นี่
เงื่อนไขและคุณสมบัติ
– ไม่มีเงื่อนไขพิเศษอื่น ๆ นอกจากระดับการศึกษา
– ต้องมีความรู้และทักษะในสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยละเอียดอ่านในประกาศ
กำหนดวันรับสมัคร
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ถึง 17 พฤศจิกายน 2568
วิธีการสมัครและข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดและสมัครงานผ่านทางเว็บไซต์ราชการของ กรมการแพทย์ ได้ที่ https://hrm.dms.go.th/
ความสำคัญของนักรังสีการแพทย์ในระบบสาธารณสุข
นักรังสีการแพทย์เป็นบุคลากรทางการแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีทางรังสี เช่น การถ่ายภาพ X-ray, CT Scan, MRI และเทคนิคอื่น ๆ ที่ช่วยในการวินิจฉัยโรคและรักษาผู้ป่วยอย่างแม่นยำ ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาอย่างรวดเร็ว นักรังสีการแพทย์ จึงมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานของนักรังสีการแพทย์ต้องอาศัยความรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์เทคนิคทางรังสี ความระมัดระวังสูง และทักษะในการใช้เครื่องมือซับซ้อน เพื่อให้ข้อมูลภาพที่ถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัยต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะในการสื่อสารและทำงานร่วมกับทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด
แนวทางการเตรียมตัวสมัครตำแหน่งนักรังสีการแพทย์
1. ตรวจสอบคุณสมบัติและความพร้อมทางการศึกษา
ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่เกี่ยวข้องกับรังสีการแพทย์ เช่น เทคนิคการแพทย์ หรือสาขาที่รับรองในประกาศรับสมัครงาน โดยควรตรวจสอบเอกสารประกาศให้ละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารวุฒิการศึกษาถูกต้องครบถ้วน
2. ศึกษารายละเอียดเอกสารประกาศรับสมัครอย่างถี่ถ้วน
เอกสารประกาศรับสมัครงานราชการจะระบุรายละเอียดด้านสมรรถนะ ทักษะที่ต้องการ รวมถึงกระบวนการประเมินผู้สมัคร ควรอ่านอย่างละเอียดเพื่อไม่พลาดข้อมูลสำคัญ เช่น รูปแบบการสอบหรือวิธีการสัมภาษณ์
3. เตรียมความรู้พื้นฐานและทักษะที่เกี่ยวข้อง
ถึงแม้ประกาศล่าสุดอาจไม่ได้ระบุวิชาที่สอบชัดเจน แต่ผู้สมัครควรเตรียมความรู้ในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับรังสีการแพทย์ เช่น
- หลักการและเทคนิคการใช้เครื่องมือรังสี
- เทคโนโลยีทางรังสีและการควบคุมคุณภาพ
- ความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้รังสี
- การดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ทางการแพทย์
- การสื่อสารและทำงานร่วมกับทีมแพทย์
4. เตรียมเอกสารสมัครงานอย่างครบถ้วน
เอกสารสมัครงานต้องสมบูรณ์และถูกต้อง เช่น ใบสมัคร สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา หนังสือรับรองต่าง ๆ ซึ่งอาจต้องใช้ในขั้นตอนสัมภาษณ์หรือยืนยันตัวตน
5. ติดตามข่าวสารและประกาศของกรมการแพทย์
การติดตามประกาศอย่างต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ https://hrm.dms.go.th/ จะช่วยให้ไม่พลาดวันสำคัญ เช่น วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วันสอบ และขั้นตอนบรรจุเข้ารับราชการ
งานและบทบาทของนักรังสีการแพทย์ในกรมการแพทย์
นักรังสีการแพทย์ในกรมการแพทย์มีหน้าที่หลักในการทำงานร่วมกับทีมแพทย์เพื่อสร้างภาพทางการแพทย์ที่มีความละเอียดสูงและแม่นยำ เช่น
- ปฏิบัติการถ่ายภาพรังสีในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยวินิจฉัยโรค
- ตรวจสอบและควบคุมคุณภาพเครื่องมือรังสีให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้เทคนิคทางรังสีแก่ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานความปลอดภัยทางรังสี
- ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ใหม่หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
การมีนักรังสีการแพทย์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยทางการแพทย์และลดความเสี่ยงในการได้รับรังสีที่ไม่จำเป็นแก่ผู้ป่วย
สรุปและข้อเสนอแนะสำหรับผู้สมัครตำแหน่งนักรังสีการแพทย์
กรมการแพทย์เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้และความสามารถในวิชาชีพนักรังสีการแพทย์ได้บรรจุเข้ารับราชการ ด้วยสวัสดิการที่มั่นคง และเงินเดือนเริ่มต้นที่ 18,150 – 19,970 บาท พร้อมโอกาสเติบโตในสายงานวิชาการทางการแพทย์ ตำแหน่งนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำงานในระบบสาธารณสุขที่ท้าทายและมีความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพประชาชน
คำแนะนำสำคัญ
- ตรวจสอบคุณสมบัติตนเองให้ครบถ้วนทุกข้อก่อนสมัคร
- ศึกษาเอกสารและประกาศอย่างละเอียดเพื่อเข้าใจขั้นตอนและเกณฑ์การคัดเลือก
- ฝึกฝนทักษะด้านรังสีการแพทย์และศึกษาความรู้ทางวิชาการอย่างเข้มข้น
- เตรียมเอกสารสมัครให้พร้อมและตรงตามประกาศ
- ติดตามข่าวสารการรับสมัครและประกาศผลผ่านเว็บไซต์ราชการของกรมการแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
หากคุณสนใจสมัครตำแหน่ง นักรังสีการแพทย์ กรมการแพทย์ ในปี 2568 นี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครผ่านเว็บไซต์ได้ที่ https://hrm.dms.go.th/
ดาวน์โหลดเอกสารประกาศรับสมัครฉบับเต็มได้ที่ ที่นี่
ดูงานราชการล่าสุดและสมัครสอบได้ที่ เว็บไซต์กรมการแพทย์
เริ่มต้นสู่เส้นทางอาชีพในงานราชการที่มั่นคงและมีเกียรติวันนี้!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
นักรังสีการแพทย์ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?
ผู้สมัครต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับรังสีการแพทย์ และมีความรู้ความสามารถในเทคนิคการถ่ายภาพและการใช้เครื่องมือทางรังสีอย่างเหมาะสม
สามารถสมัครงานตำแหน่งนี้ได้ที่ไหน?
สมัครและติดตามข้อมูลได้ผ่านเว็บไซต์ราชการของกรมการแพทย์ที่ https://hrm.dms.go.th/
มีจำนวนรับสมัครกี่ตำแหน่ง?
ในปี 2568 นี้ กรมการแพทย์เปิดรับสมัครในตำแหน่งนักรังสีการแพทย์จำนวน 1 อัตรา
เงินเดือนตำแหน่งนักรังสีการแพทย์เท่าไร?
เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ระหว่าง 18,150 ถึง 19,970 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และตำแหน่งในสายงาน
เอกสารหลักใดบ้างที่ต้องเตรียมสำหรับสมัคร?
ผู้สมัครต้องเตรียมใบสมัคร, สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, วุฒิการศึกษา และหนังสือรับรองอื่น ๆ ตามที่ประกาศระบุ
