Skip to content

งานราชการวันนี้ – Thai Gov Works

รวมงานราชการทั่วไทย อัปเดตทุกวัน

Menu
  • หน้าหลัก
  • หมวดงานราชการ
  • บทความ
  • ข่าว/อัปเดต
  • ติดต่อเรา
Menu
กระบวนการสมัครงานผ่านออนไลน์
Posted on พฤษภาคม 11, 2025

อัปเดตล่าสุด! วิธีสมัครสอบงานราชการออนไลน์ ปี 2568: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่

ระยะเวลาการอ่าน: ประมาณ 12 นาที

แนวทางสำคัญ:
  • เข้าใจภาพรวมและขั้นตอนการสมัครสอบงานราชการออนไลน์ในปี 2568
  • เตรียมเอกสารและข้อมูลส่วนตัวให้พร้อมก่อนสมัคร
  • รู้จักเกณฑ์การคัดเลือกและเทคนิคการเตรียมตัวสอบทั้งภาคข้อเขียนและสัมภาษณ์
  • วางแผนการบริหารเวลาและจัดการความเครียดในช่วงเตรียมสอบ
  • แนะนำแหล่งข้อมูลและเว็บไซต์สำคัญสำหรับเตรียมสอบราชการ

สารบัญ

  • ทำความเข้าใจภาพรวมการสมัครสอบราชการออนไลน์ ปี 2568
  • ทำไมต้องสมัครออนไลน์? ดีกว่าเดิมยังไง?
  • ขั้นตอนหลัก ๆ ในการสมัครสอบราชการออนไลน์
  • เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อม สแกนรอไว้เลย!
  • เกณฑ์การคัดเลือก และการเตรียมตัวสอบแต่ละภาค
  • กลยุทธ์บริหารเวลาและจัดการความเครียด พิชิตฝันข้าราชการ
  • แหล่งข้อมูลและตัวช่วยเพิ่มเติมในการเตรียมสอบ
  • คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สำหรับการสมัครสอบราชการออนไลน์
  • บทสรุปและก้าวต่อไป

ทำความเข้าใจภาพรวมการสมัครสอบราชการออนไลน์ ปี 2568

ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่าสมัยนี้การสมัครงานราชการสะดวกสบายขึ้นมากครับ เกือบทุกหน่วยงานเปิดให้สมัครออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยื่นเอกสารเองแล้ว (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025)) แค่มีอินเทอร์เน็ตก็สมัครได้จากทุกที่ แต่ถึงจะง่ายขึ้น ก็ยังมีจุดที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้การสมัครของเราไม่สะดุดครับ

ทำไมต้องสมัครออนไลน์? ดีกว่าเดิมยังไง?

  • สะดวก รวดเร็ว: อย่างที่บอกไป สมัครได้ 24 ชั่วโมงจากที่ไหนก็ได้ แค่ปลายนิ้วคลิก
  • ลดขั้นตอนยุ่งยาก: ไม่ต้องพิมพ์เอกสารเยอะแยะไปยื่นด้วยตัวเอง ลดการใช้กระดาษด้วยนะ
  • ติดตามสถานะง่าย: ส่วนใหญ่ระบบออนไลน์จะมีให้เราเช็กสถานะการสมัครได้เลย ว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว

ขั้นตอนหลัก ๆ ในการสมัครสอบราชการออนไลน์

ถึงแม้แต่ละหน่วยงานอาจมีรายละเอียดหน้าตาเว็บไซต์ต่างกันไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วขั้นตอนการสมัครออนไลน์มักจะมีแพทเทิร์นคล้าย ๆ กันแบบนี้ครับ (แหล่งข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (มีนาคม 2025)):

  1. เข้าเว็บไซต์หน่วยงานที่เปิดรับสมัคร: ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บรับสมัครงานของหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรง หรือบางทีก็ผ่านเว็บไซต์กลางของสำนักงาน ก.พ.
  2. อ่านประกาศรับสมัครให้ละเอียดที่สุด: อันนี้สำคัญมาก ๆๆๆ ครับ น้อง ๆ ต้องอ่านทุกบรรทัด ทำความเข้าใจคุณสมบัติผู้สมัคร, ตำแหน่งที่เปิดรับ, จำนวนที่รับ, ลักษณะงาน, เอกสารที่ต้องใช้, กำหนดการต่าง ๆ ให้ชัดเจน (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025))
  3. กรอกข้อมูลในระบบออนไลน์: เตรียมข้อมูลส่วนตัว, ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน (ถ้ามี) ให้พร้อม กรอกด้วยความรอบคอบ ตรวจทานให้ถูกต้องก่อนกดยืนยัน
  4. อัปโหลดเอกสารประกอบการสมัคร: เตรียมไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่ประกาศระบุไว้ให้พร้อม ส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์ PDF หรือ JPG อย่าลืมดูเรื่องขนาดไฟล์ด้วยนะ (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025))
  5. ชำระเงินค่าสมัคร (ถ้ามี): บางหน่วยงานจะมีค่าธรรมเนียมการสมัคร ก็ทำตามขั้นตอนที่ระบบแจ้งได้เลยครับ เช่น ชำระผ่าน QR Code, Mobile Banking หรือเคาน์เตอร์ธนาคาร
  6. ตรวจสอบสถานะ และพิมพ์เอกสารสำคัญ: หลังจากสมัครและชำระเงิน (ถ้ามี) เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมกลับเข้าระบบไปตรวจสอบสถานะการสมัคร และพิมพ์เอกสารสำคัญเก็บไว้เป็นหลักฐาน เช่น ใบสมัครที่มีเลขประจำตัวสอบ, ใบเสร็จชำระเงิน, และบัตรประจำตัวสอบ (เมื่อหน่วยงานประกาศให้พิมพ์) (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025))

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อม สแกนรอไว้เลย!

การเตรียมไฟล์เอกสารให้พร้อมและถูกต้องตามที่ประกาศระบุเป็นสิ่งสำคัญมากครับ (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025)) เพราะถ้าเอกสารไม่ครบ หรือไม่ถูกรูปแบบ อาจจะทำให้เราเสียสิทธิ์ได้เลยนะ โดยทั่วไปเอกสารที่ต้องเตรียม (อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยงาน ควรอ่านประกาศเป็นหลัก) ได้แก่:

  • ไฟล์รูปถ่ายหน้าตรง: พื้นหลังสีขาวหรือสีฟ้าตามที่กำหนด แต่งกายสุภาพ ขนาดไฟล์ไม่เกินที่กำหนด
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน: ยังไม่หมดอายุ รับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาทะเบียนบ้าน: รับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาวุฒิการศึกษา หรือใบรับรองผลการเรียน (Transcript): ที่แสดงว่าสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติปริญญาบัตรภายในวันปิดรับสมัคร รับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาหลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี): เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล, ทะเบียนสมรส, ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร (สด.8 หรือ สด.43), ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ถ้าตำแหน่งนั้น ๆ กำหนด)
  • ใบรับรองแพทย์ (บางหน่วยงานอาจกำหนด): ออกโดยสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนที่ ก.พ. รับรอง

Tip จากรุ่นพี่: สแกนเอกสารทุกอย่างเก็บไว้เป็นไฟล์ PDF หรือ JPG ให้เรียบร้อย ตั้งชื่อไฟล์ให้เข้าใจง่าย เช่น “สำเนาบัตรประชาชน_ชื่อสกุล.pdf” จะได้ไม่งงตอนอัปโหลดครับ

เกณฑ์การคัดเลือก และการเตรียมตัวสอบแต่ละภาค

พอสมัครเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวสอบกันจริงจังแล้วครับ โดยทั่วไปการสอบราชการจะแบ่งเป็น 3 ภาคหลัก ๆ คือ:

ภาค ก. (ความรู้ความสามารถทั่วไป) – ด่านแรกที่ต้องผ่าน

ภาค ก. นี้จัดสอบโดยสำนักงาน ก.พ. เป็นหลัก (ยกเว้นบางหน่วยงานที่อาจจัดสอบเองหรือมีเงื่อนไขยกเว้น) เนื้อหาหลัก ๆ ที่ออกสอบก็คือ:

  • วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (คณิตศาสตร์และเหตุผล): พวกอนุกรม, โจทย์ปัญหา, ตรรกศาสตร์, อุปมาอุปไมยต่าง ๆ ต้องฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ ครับ
  • วิชาภาษาไทย: เน้นความเข้าใจภาษา การอ่านจับใจความ สรุปความ การใช้คำให้ถูกต้อง
  • วิชาภาษาอังกฤษ: คำศัพท์ ไวยากรณ์ การอ่านบทความสั้น ๆ บทสนทนาพื้นฐาน (ใครที่ต้องเตรียมตัวเร่งด่วน แนะนำให้หาข้อสอบเก่ามาลองทำ และท่องศัพท์ที่เจอบ่อย ๆ ครับ)
  • วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (กฎหมาย): อันนี้ต้องอ่านและทำความเข้าใจกฎหมายหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐธรรมนูญ, พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน, พ.ร.ฎ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี, พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม เป็นต้น

**ข่าวดี!** บางตำแหน่งงานราชการ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลสอบภาค ก. ของ ก.พ. ก็มีนะครับ (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025)) ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับน้อง ๆ ที่อาจจะยังไม่มีผลสอบภาค ก. หรืออยากจะลองสนามสอบอื่น ๆ ดูก่อน อย่าลืมตรวจสอบในประกาศรับสมัครของแต่ละหน่วยงานให้ดีนะครับ

ภาค ข. (ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) – วัดความเชี่ยวชาญ

ภาคนี้จะวัดความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราสมัครโดยตรง เนื้อหาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละกรม กอง หรือตำแหน่งนั้น ๆ เลยครับ เช่น

  • ถ้าสมัครตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ก็อาจจะเจอข้อสอบเกี่ยวกับหลักการวางแผน การวิเคราะห์นโยบาย
  • ถ้าสมัครตำแหน่งนิติกร ก็หนีไม่พ้นข้อสอบกฎหมายเฉพาะด้าน
  • ตัวอย่าง: ใครที่เล็งกรมชลประทาน ปีงบประมาณ 2568 ก็ต้องไปดูว่าตำแหน่งที่สนใจต้องใช้ความรู้ด้านไหนบ้าง หรือถ้าเป็นงานราชการอำเภอที่พะเยา ก็ต้องศึกษาขอบเขตงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานปกครองส่วนท้องถิ่น

เทคนิคเตรียมตัวภาค ข.:

  1. ดูรายละเอียดในประกาศรับสมัคร: เขาจะบอกขอบเขตเนื้อหาที่ออกสอบไว้
  2. อ่านตำรา/เอกสารที่เกี่ยวข้อง: กับตำแหน่งนั้น ๆ โดยตรง
  3. ติดตามข่าวสาร: ความรู้รอบตัวที่เกี่ยวกับหน่วยงานหรือกระทรวงนั้น ๆ ก็สำคัญ

ภาค ค. (ความเหมาะสมกับตำแหน่ง หรือ สัมภาษณ์) – ด่านสุดท้ายวัดใจ

พอผ่านข้อเขียนมาแล้ว ก็จะถึงด่านสัมภาษณ์ครับ ด่านนี้ไม่ได้วัดแค่ความรู้อย่างเดียว แต่ดูไปถึงบุคลิกภาพ ทัศนคติ ไหวพริบ และความตั้งใจของเราด้วย

เทคนิคเตรียมตัวสัมภาษณ์ให้ผ่านฉลุย (ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการเกษตร หรือหน่วยงานไหน ๆ):

  • ศึกษาข้อมูลหน่วยงาน: ทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ พันธกิจ โครงการสำคัญของหน่วยงานที่เราจะไปสัมภาษณ์
  • เตรียมคำตอบสำหรับคำถามยอดฮิต: เช่น แนะนำตัวเอง, ทำไมถึงอยากทำงานที่นี่, จุดแข็ง-จุดอ่อน, จะนำความรู้ความสามารถมาปรับใช้กับงานได้อย่างไร
  • แต่งกายสุภาพเรียบร้อย: สร้างความประทับใจแรกเห็น
  • ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย: แสดงความกระตือรือร้นและตรงต่อเวลา
  • มั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง แต่สุภาพอ่อนน้อม: ตอบคำถามอย่างฉะฉาน มีเหตุผล แสดงความมุ่งมั่น
  • ฝึกซ้อมการสัมภาษณ์: อาจจะลองซ้อมกับเพื่อน หรือหน้ากระจก เพื่อลดความตื่นเต้น
  • เตรียมคำถามไปถามกรรมการ (ถ้ามีโอกาส): แสดงความสนใจในตัวงานและองค์กร

สำหรับน้อง ๆ ที่จะสอบข้าราชการครู: การสร้างความมั่นใจในการสัมภาษณ์สำคัญมากครับ แสดงออกถึงความเป็นครู อุดมการณ์ และความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ให้กรรมการเห็น

กลยุทธ์บริหารเวลาและจัดการความเครียด พิชิตฝันข้าราชการ

การเตรียมตัวสอบราชการเป็นเส้นทางที่ต้องใช้ทั้งพลังกายพลังใจ การบริหารจัดการเวลาที่ดี และการดูแลสภาพจิตใจจึงสำคัญมากครับ

วางแผนอ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบ (2-3 เดือนก็ปั้นได้!)

  • จัดตารางอ่านหนังสือ: กำหนดเลยว่าวันไหนจะอ่านวิชาอะไร กี่ชั่วโมง ทำให้สม่ำเสมอ
  • แบ่งเวลาให้สมดุล: ทั้งอ่านเนื้อหา ทบทวน และฝึกทำโจทย์
  • เน้นประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ปริมาณ: อ่านแล้วต้องเข้าใจ จับประเด็นสำคัญให้ได้
  • ฝึกทำแนวข้อสอบเก่า: ช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบคำถาม และจับเวลาเหมือนสอบจริง (Query: เทคนิคการบริหารเวลาในการฝึกซ้อมสอบราชการ)
  • สรุปโน้ตย่อ: เป็นภาษาของตัวเอง จะช่วยให้จำได้ดีขึ้น

**ถ้ามีเวลา 3 เดือน:**

  • เดือนที่ 1: ปูพื้นฐานเนื้อหาทุกวิชาให้แน่น
  • เดือนที่ 2: ตะลุยโจทย์ แยกตามบท ตามประเภทคำถาม และเริ่มจับเวลา
  • เดือนที่ 3: ทบทวนภาพรวม ทำข้อสอบเสมือนจริงชุดใหญ่ ๆ เน้นจุดที่ยังพลาดบ่อย ๆ

**ถ้ามีเวลา 2 เดือน (ต้องเน้นประสิทธิภาพสุด ๆ):**

  • 3 สัปดาห์แรก: สรุปเนื้อหาสำคัญทุกวิชาแบบเข้มข้น
  • 3 สัปดาห์ต่อมา: เน้นทำโจทย์ และจับเวลาจริง
  • 2 สัปดาห์สุดท้าย: ทบทวนจุดอ่อน และทำข้อสอบเก่าให้มากที่สุด

เทคนิคบริหารเวลาในห้องสอบจริง

  • อ่านคำสั่งให้ละเอียด: ก่อนเริ่มทำข้อสอบทุกครั้ง
  • จัดสรรเวลาให้ดี: ดูว่ามีกี่ข้อ ให้เวลากี่นาที เฉลี่ยแล้วข้อละกี่นาที
  • ทำข้อที่มั่นใจก่อน: อย่าเสียเวลากับข้อยากนานเกินไป ถ้าทำไม่ได้ให้ข้ามไปก่อนแล้วค่อยกลับมาทำ
  • ฝนคำตอบให้ชัดเจน: และตรงช่อง

จัดการความเครียดก่อนสอบ ยังไงให้พร้อมเต็มร้อย

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์: ดื่มน้ำเยอะ ๆ
  • ออกกำลังกายบ้าง: ช่วยคลายเครียดได้ดี
  • หาเวลาผ่อนคลาย: ทำกิจกรรมที่ชอบ ฟังเพลง ดูหนัง คุยกับเพื่อน
  • ทำสมาธิ หรือฝึกหายใจ: ช่วยให้จิตใจสงบ
  • คิดบวก: เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้

แหล่งข้อมูลและตัวช่วยเพิ่มเติมในการเตรียมสอบ

นอกจากการอ่านหนังสือด้วยตัวเองแล้ว ปัจจุบันก็มีแหล่งข้อมูลและตัวช่วยดี ๆ เยอะแยะเลยครับ:

เว็บไซต์หน่วยงานราชการ และเว็บประกาศงานราชการ

  • เว็บไซต์ของหน่วยงานโดยตรง: เช่น กรมการปกครอง, กรมสุขภาพจิต หรือหน่วยงานที่คุณสนใจ จะมีประกาศรับสมัครและข้อมูลที่เป็นทางการที่สุด
  • เว็บไซต์รวมประกาศงานราชการ: เช่น Job.ocsc.go.th ของสำนักงาน ก.พ., หรือเว็บไซต์เอกชนที่น่าเชื่อถือต่าง ๆ ที่รวบรวมประกาศไว้

คอร์สติวและแหล่งติวออนไลน์/ออฟไลน์

  • โรงเรียนติว: มีทั้งแบบเสียเงินและบางที่อาจมีคอร์สติวฟรี (Query: แนวทางเลือกโรงเรียนติวแนวข้อสอบราชการฟรีในกรุงเทพมหานคร) ลองค้นหาข้อมูลดูครับ
  • คอร์สติวออนไลน์: สะดวก เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีให้เลือกหลากหลายราคาและเนื้อหา (Query: แนวทางค้นหาแหล่งติวออนไลน์)
  • กลุ่ม Facebook หรือ Line OpenChat: สำหรับคนเตรียมสอบราชการ มักจะมีการแชร์แนวข้อสอบ เทคนิค หรือให้กำลังใจกัน แต่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลด้วยนะครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สำหรับการสมัครสอบราชการออนไลน์

Q: ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการสมัครสอบราชการออนไลน์?
A: เตรียมไฟล์รูปถ่าย สำเนาบัตรประชาชน วุฒิการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ตามที่ประกาศระบุ โดยตรวจสอบรูปแบบไฟล์และขนาดให้ตรงตามข้อกำหนด (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025))
Q: ขั้นตอนหลังจากกรอกใบสมัครออนไลน์เสร็จแล้วต้องทำอย่างไร?
A: ตรวจสอบสถานะการสมัครในระบบ พิมพ์ใบตรวจสอบข้อมูล พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ (เมื่อถึงกำหนด) และพิมพ์ใบสมัครเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน (แหล่งข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (มีนาคม 2025))
Q: สามารถสมัครสอบราชการได้หลายตำแหน่งพร้อมกันหรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับประกาศของแต่ละหน่วยงานครับ บางหน่วยอาจอนุญาตให้สมัครได้เพียงตำแหน่งเดียว แต่บางหน่วยก็อาจอนุญาตให้สมัครได้หลายตำแหน่งหากคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ดังนั้น ต้องศึกษาประกาศรับสมัครของแต่ละที่ให้ละเอียดเลยครับ (แหล่งข่าว: Thai Gov Works (2025))

บทสรุปและก้าวต่อไป

การสมัครสอบงานราชการออนไลน์ปี 2568 ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดใช่ไหมครับน้อง ๆ หัวใจสำคัญคือ การเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การศึกษาประกาศรับสมัครอย่างละเอียด การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้อง ไปจนถึงการวางแผนอ่านหนังสือและฝึกทำโจทย์อย่างมีวินัย พี่เชื่อว่าถ้าเราทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง โอกาสที่จะคว้าฝันการเป็นข้าราชการมาครองก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

**ขั้นตอนที่ควรทำทันที:**

  • ลิสต์หน่วยงาน/ตำแหน่งที่สนใจ แล้วเข้าไปดูประกาศรับสมัครในเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้น ๆ
  • เช็กคุณสมบัติตัวเอง ว่าตรงตามที่ประกาศกำหนดหรือไม่
  • เริ่มรวบรวมและสแกนเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัคร
  • วางแผนการอ่านหนังสือ และเริ่มลงมือทำตามแผนได้เลย!

เรื่องล่าสุด

  • งานราชการนายท้ายเรือกลชายทะเล กรมประมง – สมัครสอบและเตรียมตัว
  • รับสมัครงานราชการ นักรังสีการแพทย์ปฏิบัติการ สป.สธ. 2568
  • รับสมัครเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน งานราชการ สำนักงาน กปร.
  • งานราชการกรมประมง รับสมัครเจ้าพนักงานประมง-ธุรการ พร้อมเทคนิคสอบ
  • รับสมัครพนักงานประจำสำนักงาน กรมวิชาการเกษตร ปี 2568 – แนวทางสอบงานราชการ

เกี่ยวกับเรา

เว็บไซต์งานราชการวันนี้ - Thai Gov Works มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลการรับสมัครงานราชการ...

©2025 งานราชการวันนี้ - Thai Gov Works

ลิงก์สำคัญ

  • เกี่ยวกับเรา
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อตกลงการใช้งาน
  • ติดต่อเรา

ติดต่อ

Email: info@thaigovworks.com

Facebook: Thai Gov Works

Line: @thaigovworks

©2025 งานราชการวันนี้ – Thai Gov Works | Design: Newspaperly WordPress Theme